เราเชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ คน คงจะสงสัยว่า…ทำไมเมื่อใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์แล้วต้องกรอกเลข CVV กับ OTP ด้วย ? เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะมากล่าวถึงรายละเอียดของเลข CVV และ OTP กัน ว่ามันมีความสำคัญอย่างไร ? ในการใช้บัตรซื้อของออนไลน์ ซึ่งเราขอรับประกันเลยว่าคุณจะเข้าใจและรู้จักกับเลข CVV และ OTP ดีขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปพบกับข้อมูลที่น่าสนใจนี้พร้อมๆ กันเลย!
เลข CVV คืออะไร ?
อันดับแรกเราจะขอพาคุณไปทำความรู้จักกับเลข CVV กันก่อน ซึ่งเลข CVV คือ เลขที่สลักอยู่บนบัตรเครดิต โดยบัตรวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดจะมีรหัสเลข CVV อยู่ 3 หลัก บริเวณด้านหลังบัตรเครดิตใกล้ๆ กับแถบแม่เหล็ก ส่วนบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสจะมีรหัสเลข CVV อยู่ 4 หลัก บริเวณด้านขวาเยื้องไปทางด้านบนของรหัสบนบัตร ทั้งนี้เลข CVV มีเพื่อใช้ยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรในการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์และเพื่อป้องกันบุคคลอื่นนำเลขบนบัตรเครดิตไปใช้ในทางที่ผิด เพราะถ้าไม่มีรหัสเลข CVV ก็จะไม่สามารถดำเนินการในการชำระเงินได้ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเลข CVV เป็นขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยขั้นแรกในการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์นั่นเอง
เลข OTP คืออะไร ?
เลข OTP (One Time Password) คือชุดรหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว โดยเลข OTP จะส่งมาให้ผู้ถือบัตรเครดิตยืนยันตัวตนผ่านทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลล์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ว่าคุณเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มขั้นความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์นั่นเอง
ทำไมการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์จะต้องกรอกเลข CVV และ OTP
คำตอบง่ายๆ ของคำถามที่ว่าทำไมการใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์จะต้องกรอกเลข CVV และ OTP เลยก็คือ “เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานบัตรเครดิต” เพราะต่อให้พวกมิจฉาชีพหรือบุคคลอื่นรู้เลข 16 หลักบนบัตรเครดิตของคุณ ก็ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ได้ เนื่องจากขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะกดชำระเงิน ทางระบบจะมีเลข OTP ส่งเข้ามาทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมลล์ที่เจ้าของบัตรตัวจริงได้ลงทะเบียนไว้เพื่อกดยืนยันตัวตน และยังต้องกรอกเลข CVV อีกด้วย ดังนั้นทั้งเลข CVV และ OTP จึงกลายเป็นชุดตัวเลขสำคัญที่คุณจะต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าให้ผู้อื่นล่วงรู้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นบัตรเครดิตของคุณจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน!
เลข OTP จะส่งมาจากการใช้งานอะไรบ้าง ?
นอกจากเลข OTP จะส่งให้คุณเมื่อใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์แล้ว เจ้าตัวเลขนี้ก็ยังจะถูกส่งมาจากการใช้งานอื่นๆ ที่ต้องยืนยันตัวตนอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น…
1.การเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น
2.การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์หรือ Mobile Banking
3.การยืนยันตัวตนก่อนเข้าสู่ระบบของเว็บไซต์ต่างๆ
ซึ่งส่วนมากแล้วเลข OTP จะเป็นตัวเลข 6 หลัก และมักจะส่งเข้าเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ ทั้งนี้เลข OTP จะสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวและตามเวลาที่ทางแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์จะกำหนด อาทิเช่น 15 วินาที 30 วินาที หรือ 60 วินาที เป็นต้น
รายละเอียดที่เราได้กล่าวไปข้างต้นคงจะทำให้คุณรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า ทำไมเมื่อใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์แล้วจะต้องกรอกเลข CVV และ OTP ดังนั้นผู้ที่ถือบัตรเครดิตทุกๆ คน จึงจะต้องป้องกันและปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นรู้รหัสเลขทั้ง 2 อย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของบัตรเครดิตที่คุณกำลังถืออยู่นั่นเอง และสำหรับใครที่กำลังต้องการทำบัตรเครดิตใบใหม่อยู่ล่ะก็ คุณสามารถเข้าไปเลือกชมรายละเอียดของบัตรเครดิตจากธนาคารชั้นนำเจ้าต่างๆ ของประเทศได้ที่ Rabbit Care เว็บไซต์ที่จะทำให้คุณได้พบกับบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างตรงจุด เพราะทาง Rabbit Care นั้น มีบริการเปรียบเทียบและช่วย แนะนำบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับคุณทั้งในเรื่องของฐานเงินเดือน Lifestyle การใช้ชีวิต ฯลฯ ให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งยังมีสิทธิพิเศษรอมอบให้คุณอยู่อีกเพี๊ยบ!